“เซ็นทารา” บูมมัลดีฟส์ ส่ง “เซ็นทารา มิราจ ลากูน” จับกลุ่มครอบครัว

กว่า 10 ปีแล้วที่กลุ่ม “เซ็นทรัล” ในนาม “เซ็นทารา” หรือ Centelขยายการลงทุนโรงแรมและรีสอร์ตไป “มัลดีฟส์” ด้วยการร่วมลงทุนในโรงแรม “เซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท และสปา มัลดีฟส์” และลงทุน “เซ็นทารา ราสฟูชิ รีสอร์ท และสปา มัลดีฟส์”

และทั้ง 2 แห่งสร้างรายได้อยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด แม้กระทั่งในช่วงปีที่เกิดวิกฤตโควิด เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์เป็นตลาดอันดับแรก ๆ ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว บวกกับมัลดีฟส์ยังคงเป็น Luxury Destination และมีโอกาสทางการตลาดสูง ทำให้กลุ่มทุนโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ของไทยเพิ่มดีกรีขยายตลาดกันมากขึ้น

“เซ็นทารา” เพิ่มลงทุนมัลดีฟส์

“ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า มัลดีฟส์ถือเป็นตลาดสำคัญของกลุ่มเซ็นทารา และเป็นตลาดที่ใช้งบฯลงทุนสูง

โดยบริษัทได้วางแผนใช้งบฯลงทุนทั้งสำหรับลงทุนในโครงการใหม่และรีโนเวตโครงการเดิมในช่วงปี 2567-2568 รวม 3 ปี ประมาณ 13,000-20,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบฯสำหรับลงทุนในธุรกิจอาหารราว 1,000-1,200 ล้านบาท ที่เหลือจะลงในส่วนของโรงแรมทั้งหมด

“เฉพาะโรงแรมที่มัลดีฟส์ 2 แห่งใหม่คือ เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ เราวางไว้ประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าพอลงทุนจริงงบฯลงทุนน่าจะมากกว่าที่ประมาณการไว้แน่นอน”

ส่ง “มิราจ” จับกลุ่มครอบครัว

“แอนดรูว์ แจนสัน” ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ ให้ข้อมูลว่า สำหรับ “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” นั้น เปิดให้บริการไปเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ของกลุ่ม “เซ็นทารา” ในมัลดีฟส์ และเป็นโรงแรม “เซ็นทารา มิราจ” แบรนด์ธีมรีสอร์ตยอดนิยมสำหรับครอบครัวแห่งที่ 4 ของเซ็นทารา ต่อจากที่พัทยา มุยเน่ และดูไบ

แอนดรูว์ แจนสัน

และเป็นโครงการลงทุนส่วนแรกของเซ็นทาราบนเกาะสวรรค์ในมาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์ที่มีความสวยงาม ซึ่งโครงการส่วนที่ 2 ของเซ็นทาราบนเกาะแห่งนี้คือ “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 เมษายน 2568 นี้

โดยหลังจากเปิด “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” แล้ว กลุ่ม “เซ็นทารา” จะมีโรงแรมในมัลดีฟส์ทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ 1.เซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา มัลดีฟส์ (มัชฉาฟูชิ) เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 112 ห้อง 2.เซ็นทารา ราสฟูชิ รีสอร์ตระดับ 4 ดาว สำหรับผู้ใหญ่ที่เหมาะสำหรับคู่รักและผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 140 ห้อง

3.เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ เป็นรีสอร์ตสำหรับกลุ่มครอบครัว (Family Resort) จำนวน 145 ห้อง ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อปลายปี 2567 และ 4.เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ จำนวน 142 ห้อง ซึ่งอยู่ในแผนเปิดให้บริการในวันที่ 1 เมษายน 2568

2 แห่งลงทุน 6.8 พันล้านบาท

“แอนดรูว์” บอกว่า ในส่วนของ 2 โรงแรมใหม่ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ใช้งบฯลงทุนไปมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,800 ล้านบาท มีพื้นที่ทั้งหมด 170,000 ตารางเมตร โดย “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” เป็นธีมรีสอร์ตสำหรับกลุ่มครอบครัว (Family Resort) จำนวน 145 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 45-196 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์โลกใต้น้ำ มีสวนน้ำและกิจกรรมทางน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ากลุ่มครอบครัว และเพื่อความสะดวกสบายของทุกคนในครอบครัว

ได้แก่ Beachfront Room, Overwater Villa, Overwater Pool Villa และ Beach House with Patio Bunk beds ในห้องสำหรับครอบครัว ฯลฯ ห้องพักทุกห้องมีสไตล์ชายหาดร่วมสมัย โต๊ะรับประทานอาหาร และอ่างอาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัว อ่างจากุซซี่ หรือสระว่ายน้ำ ห้องเชื่อมต่อ (Connecting Room) และห้องที่สามารถใช้รถเข็น (Wheelchair) ได้

เรียกว่า มีทั้งบ้านพักตากอากาศริมหาด และบ้านพักตากอากาศกลางน้ำ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการนั้น รีสอร์ตแห่งนี้มีคอมเพล็กซ์กลางแจ้งพร้อมสระว่ายน้ำ Water Playground, Lazy River สปาเซ็นวารีที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์ครบวงจร Kids’ Club and Games Room

มีบริการห้องอาหารและบาร์ให้เลือกจำนวนมาก ได้แก่ The Sailhouse บริการอาหารนานาชาติตลอดทั้งวัน พร้อมที่นั่งทั้งในร่มและนอกอาคาร ห้องอาหารสวนบัว ให้บริการอาหารไทย ห้องอาหาร Acqua ให้บริการอาหารอิตาเลียน Mirage Beach Bar บาร์ริมหาดพร้อมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ฯลฯ

โดดเด่นที่สุดคือ รีสอร์ตแห่งนี้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกช่วงอายุ มีความสนุกหรรษาเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะสวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงสระน้ำวนเลซี่ริเวอร์ และโซนเครื่องเล่นน้ำสำหรับเด็กโดยเฉพาะ คิดส์คลับและแคนดี้สปาสำหรับคุณหนู ๆ และสปาเซ็นวารีสำหรับพ่อแม่”

ที่สำคัญ สามารถเดินทางเข้าถึงได้โดยง่ายด้วยสปีดโบ๊ต เพียง 40 นาทีจากท่าอากาศยานนานาชาติเวลานา หรือท่าอากาศยานนานาชาติ “มาเล่”

Family Resort โตสูงคู่แข่งน้อย

“แอนดรูว์” บอกว่า โรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ ถือเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่กำลังเติบโตในตลาดมัลดีฟส์ โดยหลังจากเปิดให้บริการพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ปัจจุบัน ( 15 กุมภาพันธ์) มีอัตราการเข้าพักรวมเฉลี่ยที่ระดับประมาณ 60% โดยตั้งเป้าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมแห่งนี้ในปีแรกของการให้บริการไว้ที่ 45-55%

“นักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ของมัลดีฟส์คือ จีน รัสเซีย ไทย ยูเครน อินเดีย โดยช่วงไฮซีซั่นคือธันวาคม-เมษายน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นยุโรป สหราชอาณาจักร รัสเซีย และจีน หลังจากนั้นตลาดจะค่อนข้างหลากหลาย โดยเฉพาะชาวเอเชีย”

พร้อมบอกด้วยว่า รีสอร์ตที่จับลูกค้ากลุ่ม “ครอบครัว” เป็นเซ็กเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ขณะเดียวกันก็ยังเป็นกลุ่มที่มีคู่แข่งน้อย โดยรีสอร์ตส่วนใหญ่หรือประมาณ 60% จับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคู่รัก ประมาณ 30% จับกลุ่มครอบครัว ที่เหลืออีก 10% เป็นกลุ่ม Solo Traveler หรือกลุ่มเดินทางคนเดียว

ขณะที่ “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” นั้น จับกลุ่มครอบครัว 70% จับกลุ่มคู่รัก 20% ที่เหลืออีก 10% คือ สำหรับกลุ่มเดินทางคนเดียว

โดยวางเป้าหมายให้ “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” ขึ้นเป็นผู้นำ และเป็น 1 ในรีสอร์ตที่ดีที่สุดในเซ็กเมนต์ Family Resort ในตลาดมัลดีฟส์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเซ็นทาราในการก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี 2570 และมาตรฐานการบริการระดับสากลไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหลักทั่วโลกด้วย

20/2/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 20 กุมภาพันธ์ 2568 )