เจ้าสัวเจริญ ผนึก โสภณพนิช ลงทุนเปิดนิคมอุตฯ 4,600 ไร่ โซน EEC

สิ้นสุดการรอคอย หลังเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประมูลซื้อที่ดินผืนใหญ่สุดในโซน EEC ขนาด 4,600 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.32 ล่าสุด ได้เปิดตัวบริษัทร่วมทุน 3 ยักษ์ธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มเจ้าสัวเจริญในนาม “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ไทย“ ร่วมกับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และกลุ่มเอเชียน อินดัสเตรียล เอตเตท ของตระกูลโสภณพนิช พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรแห่งแรกในไทย

นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด บริษัทภายใต้การร่วมทุนของ 3 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทยได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี, บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัทนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด หรือเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท ของนายชาลี โสภณพนิช แห่งธนาคารกรุงเทพ

จัดตั้งบริษัทร่วมทุนพัฒนาโครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ (ARAYA THE EASTERN GATEWAY) ที่นับเป็น “The First IndustrialTech Ecosystem in Thailand” หรือระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่บนพื้นที่กว่า 4,600 ไร่

ประกอบด้วยแคมปัสด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี พื้นที่โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรมอารยะ ตลอดจนโซนไลฟ์สไตล์และบริการต่าง ๆ ศูนย์กลางการให้บริการชุมชน และโครงการที่อยู่อาศัย บนทำเลกิโลเมตรที่ 32 บางนา-ตราด ครอบคลุมเชื่อมต่อไปสู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมดึงดูดบริษัทชั้นนำจากหลายภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป

“อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรม ที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือ Industrial Tech Ecosystem โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบุกเบิกระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูงและโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย

พร้อมสนับสนุนความสำเร็จทางธุรกิจของลูกค้า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของบุคลากรในโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางการลงทุนที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากบริษัทระดับนานาชาติ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ”

รายละเอียดโครงการตั้งอยู่บนประตูสู่ภาคตะวันออก ณ กิโลเมตรที่ 32 ของถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งนับเป็นทำเลทองของอุตสาหกรรมไทยใกล้กรุงเทพฯ เชื่อมต่อจากถนนบางนา-ตราด สู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ และท่าเรือแหลมฉบังในเวลาเพียง 60 นาที เหมาะกับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งยังรายล้อมด้วยศูนย์การผลิตสินค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจ E-Commerce รวมถึงธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ฯลฯ ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ ๆ ในการเปิดรับลูกค้าจากบริเวณใกล้เคียงที่ตั้งของโครงการมาร่วมสร้างมูลค่า พร้อมรองรับการเติบโตและขยายตัวของธุรกิจในอนาคตอย่างเต็มศักยภาพ

ทั้งนี้ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ออกแบบระบบนิเวศภายในโครงการ ภายใต้ 6 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1. Industrial Tech Campus (แคมปัสด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี) : พื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เป็นแคมปัสของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

2. Logistics Park (พื้นที่โลจิสติกส์) : พื้นที่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ด้วยทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งได้อย่างสะดวก จึงเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ

3. ARAYA Industrial Estate (นิคมอุตสาหกรรมอารยะ) : พื้นที่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และตั้งอยู่ในพื้นที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการลงทุนต่าง ๆ ตามนโยบายของภาครัฐ

4. Lifestyle & Amenities (โซนไลฟ์สไตล์และบริการต่าง ๆ) : พื้นที่รีเทล ไลฟ์สไตล์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของโครงการที่มุ่งเน้นการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน

5. Community Services Centre (ศูนย์กลางการให้บริการชุมชน) : ศูนย์กลางในการให้บริการชุมชน และช่วยเหลือลูกค้าของโครงการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นสวนสาธารณะ ลู่วิ่ง และสนามฟุตซอล

6. Residential Project (โครงการที่อยู่อาศัย) : เตรียมจัดสรรพื้นที่สำหรับพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหาร ที่ทำงานในโครงการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และลดความจำเป็นในการเดินทาง สอดคล้องกับแนวคิด Work-Live-Play

นางสาวกมลกาญจน์กล่าวว่า ชื่อแบรนด์โครงการ “อารยะ” สื่อถึงอารยธรรม ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบของโครงการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรม การเติบโตทางธุรกิจ ทั้งยังเป็นคำที่ออกเสียงได้ง่ายสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วน “ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” สื่อถึงทำเลของโครงการที่เชื่อมต่อสู่ภาคตะวันออก และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมหลักแห่งใหม่ของประเทศ

“อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ไม่ใช่เพียงนิคมอุตสาหกรรม แต่เป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจและอุตสาหกรรมใหม่ ในรูปแบบของระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรม เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยข้อได้เปรียบทั้งด้านเงินลงทุนที่แข็งแกร่ง ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ตลอดจนเครือข่ายลูกค้าที่ได้มาจากการผสานความร่วมมือระหว่าง 3 บริษัท จะผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ ปักหมุดหมายใหม่ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เศรษฐกิจของประเทศ สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม

“ปัจจุบันเราได้รับความสนใจและเริ่มมีการติดต่อพูดคุยกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม Semiconductor & Electronics, กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV), กลุ่มธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ (Pharmaceuticals), ธุรกิจการขนส่งและกระจายสินค้า (Logistics) และกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) และยังคงเปิดรับลูกค้าในเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง” นางสาวกมลกาญจน์กล่าวทิ้งท้าย

11/2/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 11 กุมภาพันธ์ 2568 )