MQDC โชว์ยอดขายสะสมพร้อมโอนบ้าน-คอนโดหรูในปีนี้ 24,000 ล้านบาท
MQDC เปิดแผนธุรกิจปี 2568 เน้นผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพัฒนาให้แล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เผยมียอดขายสะสมรอส่งมอบแล้วปีนี้ 24,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมการสำหรับโครงการใหม่ในอนาคต
นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) เปิดเผยว่า อัพเดตสถานะปัจจุบัน MQDC มีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินงานใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ ดังนี้
โครงการมิกซ์ยูส คลาวด์ อีเลฟเว่น (Cloud11) บนที่ดิน 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS ปุณณวิถี – อุดมสุข ภายใต้คอนเซ็ปต์ working space ที่เหมาะกับธุรกิจเน้นความสร้างสรรค์ ออกแบบเป็น Creator Village สำนักงานระดับเกรด A+ พื้นที่ Creative Retail ศูนย์การค้า ศูนย์การเรียนรู้มุ่งบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ อีเวนท์ ฮอลล์ โรงแรม 5 ดาว Sangsan Bangkok (สร้างสรรค์ แบงค็อก) ในเครือ Marriott International และโรงแรมแนวอัจฉริยะ YOTEL Bangkok (โยเทล แบงค็อก)
“โครงการ Cloud 11 ก่อสร้างคืบหน้ากว่า 70% คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4/68 โดยมีผู้เช่าแล้วมากกว่า 50%” นายสุทธากล่าว
โครงการถัดไป ซึ่งจะเริ่มโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ภายในไตรมาส 2/68 ที่สองของปีนี้ ได้แก่ มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท (Mulberry Grove Sukhumvit) โครงการที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ เน้นการอยู่อาศัยของครอบครัวหลากหลายช่วงวัย ล่าสุด มียอดขายแล้ว 60% ตั้งอยู่บนไพรมโลเคชั่นถนนสุขุมวิท แวดล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย จุดขึ้นลงทางด่วน
นอกจากนี้ MQDC ยังมีโครงการอาณาจักรป่ากลางเมือง เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) ซึ่งประกอบไปด้วยแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่พร้อมโอน พร้อมเข้าอยู่ ได้แก่ โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) เน้นด้านการดูแลกลุ่มวัยอิสระหรือวัย 50+ โดยคอนเซ็ปต์นำเสนอโปรแกรมดูแลผู้อยู่อาศัยตลอดชีวิต หรือ Lifetime Care
ภายในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ยังมี Health & Brain Center ศูนย์การแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมองและการดูแลผู้สูงวัย ซึ่งร่วมมือกับ Baycrest องค์กรระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงวัยชื่อดังจากประเทศแคนาดา ซึ่งปัจจุบันพร้อมให้บริการด้วยแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ออกแบบเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยในโครงการและบุคคลภายนอกที่สนใจการดูแลสุขภาพแนวป้องกัน
MQDC ยังมีโครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า (Mulberry Grove The Forestias Villas) คาดว่าจะเริ่มโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ภายในช่วงกลางปี 2568 และ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม (Mulberry Grove The Forestias Condominiums) จะสร้างเสร็จแล้วเริ่มทยอยโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ต้นปีนี้ ทั้งสองโครงการตั้งอยู่ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เช่นกัน
นอกจากนี้ ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ในปีนี้โครงการที่อยู่อาศัยสไตล์ รีสอร์ทแห่งแรกของแบรนด์ ซิกส์เซนส์ (Six Senses) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (Six Senses Residences The Forestias) ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ จำนวน 27 ยูนิต คาดว่าจะพร้อมโอนในช่วงปลายปีนี้ และสามารถสร้างยอดขายให้ MQDC อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของคลับเฮ้าส์จะแล้วเสร็จให้เข้าชมและใช้บริการได้ภายในไตรมาส 2/68
พร้อมกันนี้ โครงการ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ Whizdom The Forestias คอนโดมิเนียมที่ผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติ ยังคงผลักดันยอดโอนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ มายโทเปีย (Whizdom The Forestias Mytopia) วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เดสทิเนีย (Whizdom The Forestias Destinia) และ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เพทโทเปีย (Whizdom The Forestias Petopia)
นายสุทธากล่าวว่า ในภาพรวม MQDC มียอดขายสะสมรอส่งมอบหรือ backlog ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโอนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันยอดขายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ในปีนี้
รวมถึงยังมีแผนเตรียมการเพื่อธุรกิจในอนาคต โดยการเตรียมทรัพยากรต่าง ๆ อาทิ ที่ดิน บุคลากร และความเชี่ยวชาญให้พร้อม เพื่อให้บริษัทพร้อมจับโอกาสที่อาจเกิดขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่พลิกฟื้น และฐานการลงทุนจะมาอยู่ที่ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนั้น MQDC ยังคงเดินหน้าในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ที่ได้ดำเนินมาตลอด 30 ปี เพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับทุกสรรพสิ่ง รวมถึงได้มีการพัฒนา MQDC Standard โดยได้มีการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น RISC by MQDC (Research & Innovation for Sustainability Center) และ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab by MQDC เพื่อมองเรื่องทิศทางการอยู่อาศัยในอีก 40 ปีข้างหน้า เพื่อนำมาปรับใช้กับโครงการ และยังมองถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ เรื่องความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
8/1/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 8 มกราคม 2568 )